ใบชาเขียวมีสารสำคัญ 2 ชนิด
คาเฟอีน (caffein)
ซึ่งมีอยู่ในชาเขียวประมาณร้อยละ 2.5 โดยน้ำหนัก
ซึ่งสารชนิดนี้เองที่ทำให้น้ำชาสามารถกระตุ้น ให้สมองสดชื่น แจ่มใส หายง่วง
เนื่องจากกาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท เพิ่มการเผาผลาญ เพิ่มการทำงานของหัวใจและไต
ผู้ป่วยโรคหัวใจก็ไม่ควรดื่มชา เนื่องจากกาเฟอีนมีคุณสมบัติในการกระตุ้นประสาทและบีบหัวใจ
แทนนิน หรือ ฝาดชา (tea
tannin)
พบในใบชาแห้งประมาณร้อยละ 20-30 โดยน้ำหนัก
เป็นสารที่มีรสฝาดที่ใช้บรรเทาอาการท้องเสียได้
ดังนั้นหากต้องการดื่มชาเขียวให้ได้รสชาติที่ดีจึงไม่ควรทิ้งใบชาค้างไว้
ในกานานเกินไป เพราะแทนนินจะละลายออกมามากทำให้ชาเขียวมีรสขม
แต่ถ้าหากดื่มชาเขียวเพื่อจุดประสงค์ในการบรรเทาอาการท้องเสียก็ควรต้มใบชานาน ๆ
เพื่อให้มีปริมาณแทนนินออกมามาก แทนนินยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
ของกล้ามเนื้อหัวใจและขยายผนังหลอดเลือด จึงทำให้ชาเขียวเหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า สารแคทิชิน (catechin) ซึ่งเป็นสารแทนนินชนิดหนึ่งในชาเขียว
มีฤทธิ์เป็นสารต้านการเกิดมะเร็ง
ข้อดีของชาเขียว
- ต้านโรคไขข้ออักเสบ กล่าวกันว่าชาเขียวช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูห์มาติก
(rheumatoid arthritis) ที่มักจะเกิดกับสตรีวัยกลางคน
อาการของโรคโดยทั่วไปคือมีอาการของการอักเสบบวมแดง
ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ
- ลดระดับคอเลสเทอรอล สารแคเทชินในชาเขียว
ช่วยทำลายคอเลสเทอรอล และกำจัดปริมาณของคอเรสเทอรอลในลำไส้ แค่นั้นยังไม่พอ
ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่พอดีอีกด้วย
- ควบคุมน้ำหนัก ถ้าคุณกำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่
การจิบชาเขียวสามารถช่วยได้ดีทีเดียว จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์พบว่า
ชาเขียวช่วยเร่งให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารและไขมันมากขึ้น
- กลิ่นปากและแบคทีเรีย ป้องกันฟันผุ
การดื่มชาเขียวนอกจากจะทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้ว
ยังช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย
อันที่จริงแล้วพบว่าชาเขียวเป็นตัวช่วยยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก
ต่อสู้กับเชื้อไวรัสในปากโดยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
ผลการทดลองชี้ว่ายาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากอย่างเดียวนั้น
ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ผลการศึกษาสรุปว่า
สารพอลิฟีนอลส์ในชาเขียวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียถึง 30% และลดการผลิตของสารประกอบที่เป็นสาเหตุทำให้ลมหายใจเหม็นบูด
นอกจากนี้ชาเขียวมีสรรพคุณช่วยป้องกันฟันผุ โดยช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ชื่อ Streptococcus
mutans ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดหินปูนที่มาเกาะฟัน
คนส่วนใหญ่จะดื่มชาเขียวหลังอาหาร เพื่อช่วยให้ลมหายใจและกลิ่นปากสะอาดสดชื่น
- ป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี ข้อมูลในวารสารวิทยาภูมิคุ้มกันทางการแพทย์ และโรคภูมิแพ้ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายนตีพิมพ์ไว้ว่า
สารแคเทชินในชาเขียวโดยเฉพาะ EGCG มีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ชาเขียวเข้มข้นช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอวี
จับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดขาว
ชนิดที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราที่เรียกว่า
"ทีเซลล์" (T cells) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้
ถ้ามีผลการศึกษาเพิ่มเติมยืนยันผลการวิจัยดังกล่าวนี้ นักวิจัยกล่าวว่าจะนำสารในชาเขียวมาใช้ทดลองในการผลิตยาชนิดใหม่
เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อเอชไอวี
แน่นอนค่ะว่าของทุกอย่างมีข้อดีแล้วก็ย่อมมีข้อเสียด้วยเช่นกัน
โทษของชาเขียว
ชาเขียวมีประโยชน์ แต่ถ้าหากชาเข้มข้นเกินไป
ก็อาจจะเกิดโทษได้เช่นกัน
- ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไทรอยด์ จะมีอาการกระสับกระส่าย ใจเต้นเร็ว มือสั่นอยู่แล้ว
การดื่มชาจะทำให้มีอาการเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น
- หญิงมีครรภ์
ควรงดดื่มเพราะจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์
- ในรายที่เป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรงดดื่มชา
เพราะกาเฟอีนจะทำให้หัวใจทำงานไม่ปกติ คือเต้นเร็วขึ้น (หากชอบดื่มชา ก็อาจเลือกชาชนิดที่สกัดกาเฟอีนออกแล้วก็ได้)
- คนที่เป็นโคกระเพาะอาหารอักเสบ
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา
เพราะชาจะกระตู้นให้ผนังกระเพราะอาหารหลั่งน้ำย่อยซึ่งมีสภาวะเป็นกรดมามากกว่าปกติ
ทำให้อาการอักเสบยิ่งรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตามในกรณีที่เป็นโรคกระเพาะแต่เลิกดื่มชาไม่ได้ การเติมนมก็มีประโยชน์
เพราะนมยับยั้งแทนนินไม่ให้ออกฤทธิ์กระตุ้นน้ำย่อยในกระเพราะอาหาร
- การดื่มชาแทนอาหารเช้าจะทำให้
ร่างกายขาดสารอาหาร จึงควรเติมนมหรือน้ำตาลอาจเพิ่มเพิ่มคุณค่าได้บ้าง
และควรกินอาหารชนิดอื่นร่วมด้วย
- การดื่มชาในปริมาณที่เข้มข้นมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการท้องผูก
และนอนไม่หลับ
- ไม่ควรดื่มชาที่ร้อนจัดมาก ๆ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร
ระคายเคืองต่อเซลล์ จะทำให้เกิดโรคมะเร็งสูง
- การดื่มชาเขียวในปริมาณสูงอาจมีผลในการลดการดูดซึมวิตามิน B1 และ ธาตุเหล็กได้
- ในกรณีที่ดื่มชาเพื่อต้องการเสริมสุขภาพและป้องกันมะเร็ง
การเติมนมในชาก็ไม่ได้ผล เพราะฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเกิดจากสารแทนนิน
แต่การเติมนมลงไปนมจะไปจับกับสารแทนนิน ไม่ให้ออกฤทธิ์
แม้จะมีการวิจัยต่างๆ
มากมายที่ระบุว่าสาร EGCG ในคาเทซินซึ่งมีอยู่ในชาจะสามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งได้ถึง 50% แต่การทดลองบางแห่งหนึ่งก็พบว่าการ EGCG เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในสัตว์อีกชนิดหนึ่ง
เพราะความสลับซับซ้อนของเอมไซม์และฮอร์โมนของสัตว์ที่แตกต่างกัน
ฉะนั้นการดื่มชาเพื่อสุขภาพที่แท้จริงจึงควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอดี
ชาเขียวกับความงาม
- สูตรน้ำแร่ชาเขียว นำน้ำแร่มาต้มให้เดือด
ใส่ชาเขียวแบบผงหรือใบชาลงไป อาจเพิ่มใบสะระแหน่สักเล็กน้อย แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
หรือนำไปแช่ในตู้เย็น ถ้าใช้ใบชา ควรกรองเอาแต่น้ำ เทใส่ขวดสเปรย์
ใช้เป็นสเปรย์น้ำแร่ชาเขียว จะเพิ่มความชุ่มชื่นและความเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า
ฉีดได้ทุกเวลาที่ต้องการความสดชื่น
- สูตรถนอมผิวรอบดวงตา ต้มชาเขียวกับน้ำเดือด
แล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด แล้วใช้สำลีชุบชาเขียวให้เปียกชุ่ม
นำมาวางบริเวณเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง
จะช่วยลดร่องรอยความอ่อนล้าของผิวรอบดวงตา และยังลดการบวมของเปลือกตาและถุงใต้ตา
ผิวจะนุ่มนวลและดูสดชื่นขึ้น
- สูตรลดน้ำหนัก ดื่มชาเขียววันละ 3 แก้ว จะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญพลังงานและและไขมันของร่างกายได้
เนื่องจากประโยชน์ที่มีมาก
ชาเขียวจึงไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องดื่มอีกต่อไป
แต่ยังเป็นสารอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย
การล้างพิษด้วยชาเขียว
ชาเขียว ได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณเป็นยาบำบัดมายาวนาน
และยังสอดคล้องกับผลการวิจัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
โดยเฉพาะคุณสมบัติที่โดดเด่นของชาเขียวก็ คือ
การช่วยล้างพิษออกจากร่างกายได้ลึกถึงระดับเซลล์
สรุปกลไกการทำงานของชาเขียวในการล้างพิษได้ดังนี้
- ฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ ชะลอความชรา ลดขบวนการทำลายสารพันธุกรรมและยับยั้งการก่อมะเร็ง
- ความจำเพาะเจาะจงในการกระตุ้นเอ็นไซม์ที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษในตับของชาเขียวช่วยเพิ่มขบวนการขจัดสารพิษที่ได้รับจากอาหาร
ยา และสารพิษอื่นๆ ได้ดีขึ้น และทำให้สุขภาพของตับดีขึ้นด้วย
- ความสามารถในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลมะเร็งของชาเขียว
ช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลที่ผิดปกติ เนื้องอก และเซลมะเร็งได้
- ชาเขียวช่วยให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้มีการพัฒนาการทำงานได้ดีขึ้น
จึงลดการแทนที่จากแบคทีเรียที่ไม่ดีได้ ส่งผลให้การเผาผลาญอาหารได้ดีขึ้น
- ช่วยลดคลอเรสเตอรอล LDL และเพิ่ม HDL ซึ่งเป็นไขมันที่ดี
ชาเขียวจึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไขมันอุดตันหลอดเลือดได้
ซึ่งเป็นผลดีต่อหัวใจและสมอง
- ชาเขียวสามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก
ป้องกันฟันผุ และบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ
- ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำหนักโดยออกฤทธิ์ร่วมกับ Caffeine ในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน
ในระหว่างวันของร่างกายให้มากขึ้น
สรรพคุณของชาเขียว
ชาเขียว
เป็นเครื่องดื่มซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน
รวมถึงสามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ด้วย จากงานวิจัยพบว่า
ดื่มชาเขียวทุกวันวันละประมาณ 4 แก้ว หรือมากกว่านั้น ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ เพราะในชาเขียวมีสารแอนติออกซิแดนท์ โพลีฟีนอล ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
สรรพคุณของชาเขียวอีกประการหนึ่ง คือช่วยลดน้ำหนัก
จากการวิจัยยังพบอีกว่าสารคาเฟอีนและสารฝาดแคททิคิน ในชาเขียวทำให้เมตาบอลิซึมในร่างกายดีขึ้น
เผาผลาญพลังงานได้มาก เป็นผลทำให้น้ำหนักตัวลดลง
โดยที่ไม่มีผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจ
ชาเขียวทำมาจากใบชาชนิดเดียวกับที่ใช้ทำชาดำ แต่การทำชาดำจะต้องผ่านการหมัก
ส่วนชาเขียวทำจากใบชาตากแห้งเท่านั้น
การใช้ชาเขียวร่วมกับสมุนไพรหรือพืชอื่น
ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรค
- การใช้ชาเขียวร่วมกับใบหม่อน ที่ช่วยป้องกันโรคหวัด
ลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี
- การใช้ชาเขียวกับส่วนหัวของต้นหอม จะช่วยขับเหงื่อ แก้ไข้หวัด
- การใช้ชาเขียวร่วมกับขิงสด ช่วยรักษาอาการอาหารเป็นพิษและจุกลม
ช่วยต่อต้านมะเร็งตับ
- การใช้ชาเขียวร่วมกับตะไคร้แห้งจะช่วยขับไขมันในเส้นเลือด
- การใช้ชาเขียวร่วมกับคึ่นฉ่ายจะช่วยในการลดความดันโลหิต
- การใช้ชาเขียวร่วมกับไส้หมาก ลดน้ำตาลในเส้นเลือด
- การใช้ชาเขียวร่วมกับดอกเก๊กฮวยสีเหลือง จะช่วยแก้วิงเวียนศีรษะ
ตาลาย
- การใช้ชาเขียวร่วมกับลูกเดือย จะลดอาการบวมน้ำ ตกขาว และมดลูกอักเสบ
- การใช้ชาเขียวร่วมกับเม็ดเก๋ากี้ จะช่วยลดความอ้วน แก้ตาฟาง
- การใช้ชาเขียวร่วมกับโสมอเมริกา ทำให้สดชื่น บำรุงหัวใจ
แก้คอแห้ง
- การใช้ชาเขียวร่วมกับเนื้อลำไยแห้ง จะบำรุงสมอง เสริมความจำ
- การใช้ชาเขียวร่วมกับบ๊วยเค็ม จะช่วยบรรเทาอาการคอแห้ง แสบคอ
เสียงแหบ
- การใช้ชาเขียวร่วมกับหนวดข้าวโพด จะลดความดันโลหิต
ลดน้ำตาลในเส้นเลือด ลดอาการบวมน้ำ
- การใช้ชาเขียวร่วมกับน้ำตาลกลูโคส จะช่วยบรรเทาอาการตับอักเสบ
- การใช้ชาเขียวร่วมกับเม็ดบัว จะช่วยบรรเทาอาการฝันเปียก
และยับยั้งการหลั่งเร็ว
ประโยชน์อื่น ๆ ของชาเขียว
- ทำความสะอาดพรม นอกจากใบชาแห้งจะเป็นยาดับกลิ่นได้ดีแล้ว
ยังมีคุณสมบัติต่อต้านหรือหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย
ก่อนทำความสะอาดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่น ให้โปรยใบชาแห้งบนพรม
ให้ทั่วทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงดูดฝุ่นรวมทั้งใบชาทั้งหมด
กลิ่นหอมสะอาดของใบชาเขียวจะช่วยทำให้ห้องสดชื่น รวมทั้งทำความสะอาดพรมด้วย
- ทำความสะอาดเครื่องครัว เราสามารถใช้กากชาเขียวดับกลิ่นคาวต่าง
ๆ ได้ โดยหลังจากใช้เขียงประกอบอาหารแล้ว ให้นำไปล้างน้ำ
หลังจากนั้นเกลี่ยใบชาเปียกให้ทั่วเขียง ทิ้งไว้สักพักใหญ่แล้วจึงใช้ใบชาขัดถูเขียงให้ทั่ว
และล้างออกด้วยน้ำสะอาด
น้ำชาต้มก็สามารถนำมาใช้ล้างทำความสะอาดเขียงและอุปกรณ์เครื่องครัวอื่น ๆ
ได้เช่นกัน
- ป้องกันสนิม ใช้ใบชาขัดถูหม้อ หรือกะทะเหล็กป้องกันสนิมได้
สารแทนนิน (tannin) ในใบชาจะจับตัวกับเหล็กและสร้างสารเคลือบบาง
ๆ บนพื้นผิวหม้อหรือกะทะเพื่อป้องกันสนิม
- น้ำยาบ้วนปาก กลั้วปากด้วยชาเขียวช่วยทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น
และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในปาก
สารฟลูออรีนในชาเขียวช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ
ไม่จำเป็นต้องใช้ชาเขียวชงครั้งแรกกลั้วปาก ดื่มชาให้ชื่นใจก่อน
หลังจากนั้นคุณสามารถใช้ชาเขียวชงครั้งที่สามหรือสี่ได้
- ประคบดวงตาให้สดใส นำถุงชาที่เปียกและเย็น
ทั้งที่ใช้แล้วหรือถุงชาเก่าที่ไม่ได้ใช้
วางบนเปลือกตาจะช่วยคลายความเมื่อยล้าและทำให้ดวงตาสดใส
- ผสมน้ำอาบ นำถุงชาใช้แล้วหรือใบชาใส่ถุงผ้าฝ้ายบาง ๆ
มัดให้แน่นแช่ทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำอุ่น น้ำอุ่นผสมน้ำชาจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น
- หมอนใบชา กลิ่นหอมบาง ๆ จากใบชาจะช่วยให้เราหลับสบายขึ้น
การดูแลรักษาทำได้ง่ายโดยนำหมอนที่ทำจากใบชาออกตากในที่ร่ม
เพื่อระบายอากาศเป็นประจำ สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
- เป็นเครื่องหอม นำใบชามาเผาเป็นเครื่องหอมจะให้กลิ่นหอมมาก
- ยาดับกลิ่นในตู้เย็น ให้นำถุงผ้าฝ้ายบ้าง ๆ
บรรจุใบชาหรือถุงชาใช้แล้วใส่ไว้ในตู้เย็น
สามารถขจัดกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาในตู้เย็นได้
- ปุ๋ย ให้นำกากชาไปใส่ที่กระถางต้นไม้
ใช้เป็นปุ๋ยแทนได้